คำตอบรับต่าง ๆ ต่อภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “ทุ่งหญ้าบนสรวงสวรรค์” ของคุณเด็ดเล็ฟ ฟรานซ์ นูเฟิร์ต

 

ว็อล์ฟกัง เพเทอร์เซิน (Wolfgang Petersen) ผู้กำกับภาพยนตร์ ลอสแองเจลิส:

“เป็นภาพยนตร์ที่มีความลึกซึ้งจับใจ เต็มไปด้วยความร่าเริงแจ่มใสที่ไม่อาจพบเจอได้ในประเด็นโรคเอดส์ ปาฏิหาริย์อันต้องมนต์ของบ้านแกร์ด้าเป็นที่น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบภาพยนตร์ ตราตรึงใจผู้ชมด้วยอารมณ์เร้าใจและแฝงพลังความหวัง นี่คือผลงานชิ้นเด่นเลย”

 

ฌาน มอโรว์ (Jeanne Moreau) นักแสดง ปารีส ประเทศฝรั่งเศส:

“ฉันเริ่มดู ‘ทุ่งหญ้าบนสรวงสวรรค์’ ด้วยความสนใจอย่างมาก เมื่อดูไปความเห็นอกเห็นใจก็ยิ่งเพิ่มพูน แต่ที่แน่นอนที่สุด ฉันชื่นชมทุกคนที่ร่วมกันทำโครงการดี ๆ นี้ในประเทศไทย ฉันมีความสุขมาก ๆ และอนุญาตให้อ้างอิงชื่อของฉันได้เลย” 

 

นอร์เบิร์ต บิสกี้ (Norbert Bisky) จิตรกร เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี:

“ภาพยนตร์นี้จะเปลี่ยนชีวิตคุณ”

 

เฮ็ลมูท ชมิท (Helmut Schmidt) อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี:

“บ้านแกร์ด้าเป็นโครงการที่น่าเอาอย่าง และถูกคาดหวังให้มีคนนำไปทำตามทั่วโลก เพราะจะได้ช่วยเหลือเด็ก ๆ และอนาคตของพวกเราให้มีชีวิตที่ดี”

 

อาบินี โซลล์เนอร์ (Abini Zöllner) สำนักข่าว BERLINER ZEITUNG:

“...คนบางคนอาจเกือบลืมไปว่าเด็ก ๆ มากมายในบ้านแกร์ด้าถูกกำหนดให้ต้องเสียชีวิต แต่สารคดีนี้แสดงให้เห็นถึงทางออกจากสภาวะวิกฤตทั้งที่วิกฤตเป็นจุดที่ยากที่สุดของภาวะโรคนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นเรื่องของความกล้าหาญด้วย ทั้ง ๆ ที่น้อง ๆ โดนเหยียดในสังคม เป็นเพราะคุณนูเฟิร์ตกล้ายกประเด็นความสงบสุขในชีวิตขึ้นมา… ความสำเร็จนี้ถูกดูถูกและมองข้ามอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ในประเทศนี้ ผู้ชมก็มักจะโดนประเมินต่ำไปด้วย”

 

ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี อดีตพระวรชายาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร:

“ภาพยนตร์นี้ทำให้ร้องไห้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดู ถึงกับดูภาพยนตร์นี้สองครั้ง”

 

คริสตินา เรา (Christina Rau) ผู้แทน UNICEF เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี:

“อยากให้มีบ้านแกร์ด้าหลาย ๆ ที่ในโลกนี้”

 

ศาสตราจารย์โซซา (Porf. Sosa) จากองค์กร GEMI (Global Environment Management Initiative) ประเทศเม็กซิโก:

“พึ่งดู ‘ทุ่งหญ้าบนสรวงสวรรค์’ ไม่นานมานี้ เป็นหนังที่จับใจมาก ๆ ฉันจะเอาไปให้นักศึกษาของฉันดู”

 

เคลาส์ โวเวอร์ไอท์ (Klaus Wowereit) อดีตนายกเทศมนตรีในเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี:

“ทุกวันนี้โรคเอดส์ยังถือเป็นโรคระบาดอยู่ เราควรจะตักเตือนเด็กวัยรุ่นในสังคมเรา และโรคนี้เป็นโรคที่อันตรายทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศโลกที่สาม ภาพยนตร์เรื่อง ‘ทุ่งหญ้าบนสรวงสวรรค์’ เป็นความพยายามที่คุ้มค่ามาก ๆ ในการสร้างอิทธิพลในสังคม นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังมอบความหวังให้กับผู้ที่ต้องเผชิญกับโรคเอดส์รวมถึงผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยด้วย” 



หลี่ ยู (Li Yu) ประธานสำนักข่าว CCTV ในประเทศจีน:

“ภาพยนตร์เรื่องนี้คุ้มค่าทุกนาทีของทุกคนที่ได้ดู เราจะนำไปฉายผ่านรายการโทรทัศน์หลักของเราในประเทศจีน”

 

ว็อล์ฟกัง จูป (Wolfgang Joop) นักออกแบบแฟชั่น พ็อทซ์ดัม ประเทศเยอรมนี:

“ตราบใดที่ชัยชนะต่อโรคเอดส์ยังไม่ใกล้เข้ามา เราจะต้องมีความเห็นอกเห็นใจกัน ความเขลานั้นเป็นสิ่งที่เติบโตได้ง่าย แต่หวังว่าปาฏิหาริย์ของบ้านแกร์ด้าจะเติบโตเช่นกัน”

 

ก้อง ฤทธิ์ดี (Kong Rithdee) บรรณาธิการของบางกอกโพสต์ ประเทศไทย:

“‘ทุ่งหญ้าบนสรวงสวรรค์’ เป็นภาพยนตร์ที่งดงามและมีเจตนาดี กล่าวถึงประเด็นเรื่องความน่าเป็นห่วงและความหวังอย่างสมดุล และยังมีพลังในการสร้างแรงใจให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ลุกมาสู้อีกด้วย ผู้คนในภาพยนตร์เป็นตัวแทนของความมุ่งมั่นให้กับคนทั่วโลกในการต่อสู้และทำให้คุณเรียนรู้ได้ว่านี่เป็นปัญหาของมนุษยชาติ”

 

เอวา ฟิส (Eva Fischl) จากสำนักข่าว Neue Passauer Presse พัสเซา ประเทศเยอรมนี:

“สักที่หนึ่ง ไม่ว่าด้วยจะวิธีใด ต้องมีสักคนที่เริ่มต้น แต่แล้วคุณก็ทำสำเร็จด้วยภาพยนตร์อันยอดเยี่ยมของคุณ ขอมอบความเคารพและขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจให้กับการถ่ายทำแสนวิเศษในบ้านแกร์ด้า”

 

วงดนตรี Die Toten Hosen หรือวง The Dead Pants วงดนตรีพังก์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศเยอรมนี:

“ภาพยนตร์จับใจเกี่ยวกับโครงการที่ยอดเยี่ยม”